ขั้นตอนที่ 1: ทำการบู๊ตแบบ clean boot
หมายเหตุ หากคอมพิวเตอร์ต่ออยู่กับเครือข่าย ค่านโยบายเครือข่ายอาจทำให้คุณไม่สามารถดำเนินขั้นตอนเหล่านี้ได้ แนะนำว่าไม่ควรใช้ยูทิลิตี้ System Configuration อย่างยิ่งเพื่อปรับแต่งตัวเลือกในการบู๊ตขั้นสูงในคอมพิวเตอร์ ยกเว้นวิศวกรให้บริการของ Microsoft จะแจ้งให้ดำเนินการในส่วนนี้ การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้- ล็อกออนเข้าในคอมพิวเตอร์โดยใช้บัญชีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ
- คลิก Startพิมพ์ msconfig.exe ในช่อง Start Search จากนั้นกด ENTER เพื่อเริ่มยูทิลิตี้ System Configuration
หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue
- จากแท็บ General คลิกเพื่อเลือกตัวเลือก Selective startup จากนั้นคลิกเพื่อลบเครื่องหมายที่ Load startup items (ช่อง Use Original Boot.ini ไม่สามารถใช้งานได้)
- จากแท็บ Services คลิกเพื่อเลือก Hide all Microsoft services จากนั้นคลิก Disable all
หมายเหตุ ขั้นตอนต่อไปนี้ช่วยให้ส่วนให้บริกาของ Microsoft สามารถดำเนินการต่อไปได้ บริการเหล่านี้ครอบคลุมระบบเครือข่าย Plug and Play การบันทึกการทำงาน การรายงานข้อผิดพลาดและบริการอื่นๆ หากคุณปิดส่วนบริการเหล่านี้ คุณอาจทำการลบจุดกู้คืนข้อมูลทั้งหมดอย่างถาวร ห้ามทำตามนี้หากคุณต้องการใช้ยูทิลิตี้ System Restore ร่วมกับจุดกู้คืนข้อมูลที่มีอยู่ - คลิก OK จากนั้นคลิก Restart
ขั้นตอนที่ 2: เปิดใช้สว่นให้บริการครึ่งหนึ่ง
- ทำตามขั้นตอนที่ 1a และ 1b เพื่อเรียกใช้ยูทิลิตี้ System Configuration
- คลิกที่แท็บ Services จากนั้นคลิกเพื่อเลือกที่ Hide all Microsoft services
- คลิกเพื่อเลือกช่องทำเครื่องหมายครึ่งหนึ่งจากรายการ Service
- คลิก OK จากนั้นคลิก Restart
ขั้นตอนที่ 3: พิจารณาว่าปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือไม่
หาก ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่ ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 จากขั้นตอนที่ 2 ให้คลิกเพื่อล้างเครื่องหมายในช่องครึ่งหนึ่งที่เลือกไว้ในรายการ Serviceหาก ไม่เกิดปัญหาขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 จากขั้นตอนที่ 2 เลือกช่องทำเครื่องหมายที่เหลือครึ่งหนึ่งของที่ไม่มีเครื่องหมายอยู่ใน รายการ Service ทำซ้ำขั้นตอนเหล่านี้จนกระทั่งเลือกช่องทำเครื่องหมายได้ทั้งหมด
หากเลือกส่วนบริการเพียงรายการเดียวในรายการ Serviceและยังพบปัญหา แสดงว่าบริการที่เลือกเป็นสาเหตุของปัญหา ไปขั้นตอนที่ 6 หากไม่มีส่วนให้บริการที่ทำให้เกิดปัญหานี้ ให้ไปขั้นตอนที่ 4
ขั้นตอนที่ 4: เปิดใช้รายการ Startup ครึ่งหนึ่ง
- ทำการบู๊ตแบบ clean boot โดยทวนซ้ำขั้นตอนที่ 1
- คลิกที่แท็บ Startup จากนั้นคลิกเพื่อเลือกช่องทำเครื่องหมายครึ่งหนึ่งจากรายการ Startup Item
- คลิก OK จากนั้นคลิก Restart
ขั้นตอนที่ 5: พิจารณาว่าปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือไม่
หาก ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่ ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 4 จากขั้นตอนที่ 4 ให้คลิกเพื่อล้างเครื่องหมายในช่องครึ่งหนึ่งที่เลือกไว้ในรายการ Startup Itemหาก ไม่เกิดปัญหาขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 4 จากขั้นตอนที่ 4 เลือกช่องทำเครื่องหมายที่เหลือครึ่งหนึ่งของที่ไม่มีเครื่องหมายอยู่ใน รายการ Startup Item ทำซ้ำขั้นตอนเหล่านี้จนกระทั่งเลือกช่องทำเครื่องหมายได้ทั้งหมด
หากเลือกรายการที่เริ่มการทำงานไว้เพียงรายการเดียวจาก Startup Item และยังพบปัญหา แสดงว่ารายการเริ่มการทำงานดังกล่าวเป็นสาเหตุของปัญหา ไปขั้นตอนที่ 6
หาก ไม่มีรายการเริ่มการทำงานใดที่เป็นสาเหตุของปัญหานี้ แสดงว่าส่วนให้บริการของ Microsoft อาจไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหา พิจารณาว่าส่วนให้บริการ Microsoft ตัวใดที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา โดยทวนซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 โดยไม่ทำเครื่องหมายที่ Hide all Microsoft services ในทั้งสองขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 6: แก้ไขปัญหา
หลัง จากพบรายการเริ่มการทำงานหรือส่วนบริการที่เป็นสาเหตุของปัญหาแล้ว กรุณาติดต่อผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อตรวจสอบว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร หรือเรียกใช้ยูทิลิตี้ System Configuration จากนั้นคลิกเพื่อลบเครื่องหมายสำหรับรายการที่เป็นสาเหตุของปัญหาขั้นตอนที่ 7: รีเซ็ตคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มการทำงานตามปกติ
หลังจากแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อรีเซ็ตคอมพิวเตอร์ให้สตาร์ทตามปกติ:- คลิก Startพิมพ์ msconfig.exe ในช่อง Start Search จากนั้นกด ENTER
หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue - จากแท็บ General คลิกเลือก Normal Startup จากนั้นคลิก OK
- เมื่อได้รับแจ้งให้รีสตาร์ทเครื่อง ให้คลิกที่ Restart
การเริ่มใช้บริการ Windows Installer เมื่อไม่ได้โหลดส่วนให้บริการของระบบ
หากคุณเรียกใช้โปรแกรม Setup โดยไม่ได้เรียกใช้ส่วนบริการ Windows Installer คุณอาจได้รับข้อความแจ้งข้อผิดพลาดต่อไปนี้The Windows Installer service could not be accessed. ติดต่อฝ่ายให้บริการเพื่อยืนยันว่ามีการลงทะเบียนส่วนให้บริการ Windows Installer ถูกต้อง
- คลิก Startคลิกขวาที่ Computer จากนั้นคลิกเลือก Manage
หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue - จากโครงสร้างคอนโซล คลิกเลือก Services and Applications จากนั้นคลิกที่ Services
- จากแถบแสดงรายละเอียด คลิกขวาที่ Windows Installer จากนั้นคลิกที่ Start
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น