วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การแก้ไขปัญหาโดยการบู๊ตแบบ clean boot จาก Windows 7

ขั้นตอนที่ 1: ทำการบู๊ตแบบ clean boot

หมายเหตุ หากคอมพิวเตอร์ต่ออยู่กับเครือข่าย ค่านโยบายเครือข่ายอาจทำให้คุณไม่สามารถดำเนินขั้นตอนเหล่านี้ได้ แนะนำว่าไม่ควรใช้ยูทิลิตี้ System Configuration อย่างยิ่งเพื่อปรับแต่งตัวเลือกในการบู๊ตขั้นสูงในคอมพิวเตอร์ ยกเว้นวิศวกรให้บริการของ Microsoft จะแจ้งให้ดำเนินการในส่วนนี้ การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้
  1. ล็อกออนเข้าในคอมพิวเตอร์โดยใช้บัญชีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ
  2. คลิก Start
     จากปุ่ม Start
    พิมพ์ msconfig.exe ในช่อง Start Search จากนั้นกด ENTER เพื่อเริ่มยูทิลิตี้ System Configuration
    User Account Control permission
    หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue
  3. จากแท็บ General คลิกเพื่อเลือกตัวเลือก Selective startup จากนั้นคลิกเพื่อลบเครื่องหมายที่ Load startup items (ช่อง Use Original Boot.ini ไม่สามารถใช้งานได้)
    ขยายรูปภาพนี้
  4. จากแท็บ Services คลิกเพื่อเลือก Hide all Microsoft services จากนั้นคลิก Disable all
    ขยายรูปภาพนี้

    หมายเหตุ ขั้นตอนต่อไปนี้ช่วยให้ส่วนให้บริกาของ Microsoft สามารถดำเนินการต่อไปได้ บริการเหล่านี้ครอบคลุมระบบเครือข่าย Plug and Play การบันทึกการทำงาน การรายงานข้อผิดพลาดและบริการอื่นๆ หากคุณปิดส่วนบริการเหล่านี้ คุณอาจทำการลบจุดกู้คืนข้อมูลทั้งหมดอย่างถาวร ห้ามทำตามนี้หากคุณต้องการใช้ยูทิลิตี้ System Restore ร่วมกับจุดกู้คืนข้อมูลที่มีอยู่
  5. คลิก OK จากนั้นคลิก Restart

ขั้นตอนที่ 2: เปิดใช้สว่นให้บริการครึ่งหนึ่ง

  1. ทำตามขั้นตอนที่ 1a และ 1b เพื่อเรียกใช้ยูทิลิตี้ System Configuration
  2. คลิกที่แท็บ Services จากนั้นคลิกเพื่อเลือกที่ Hide all Microsoft services
  3. คลิกเพื่อเลือกช่องทำเครื่องหมายครึ่งหนึ่งจากรายการ Service
  4. คลิก OK จากนั้นคลิก Restart

ขั้นตอนที่ 3: พิจารณาว่าปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือไม่

หาก ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่ ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 จากขั้นตอนที่ 2 ให้คลิกเพื่อล้างเครื่องหมายในช่องครึ่งหนึ่งที่เลือกไว้ในรายการ Service

หาก ไม่เกิดปัญหาขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 จากขั้นตอนที่ 2 เลือกช่องทำเครื่องหมายที่เหลือครึ่งหนึ่งของที่ไม่มีเครื่องหมายอยู่ใน รายการ Service ทำซ้ำขั้นตอนเหล่านี้จนกระทั่งเลือกช่องทำเครื่องหมายได้ทั้งหมด

หากเลือกส่วนบริการเพียงรายการเดียวในรายการ Serviceและยังพบปัญหา แสดงว่าบริการที่เลือกเป็นสาเหตุของปัญหา ไปขั้นตอนที่ 6 หากไม่มีส่วนให้บริการที่ทำให้เกิดปัญหานี้ ให้ไปขั้นตอนที่ 4

ขั้นตอนที่ 4: เปิดใช้รายการ Startup ครึ่งหนึ่ง

  1. ทำการบู๊ตแบบ clean boot โดยทวนซ้ำขั้นตอนที่ 1
  2. คลิกที่แท็บ Startup จากนั้นคลิกเพื่อเลือกช่องทำเครื่องหมายครึ่งหนึ่งจากรายการ Startup Item
  3. คลิก OK จากนั้นคลิก Restart

ขั้นตอนที่ 5: พิจารณาว่าปัญหาเกิดขึ้นอีกหรือไม่

หาก ยังเกิดปัญหาขึ้นอยู่ ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 4 จากขั้นตอนที่ 4 ให้คลิกเพื่อล้างเครื่องหมายในช่องครึ่งหนึ่งที่เลือกไว้ในรายการ Startup Item

หาก ไม่เกิดปัญหาขึ้น ให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 4 จากขั้นตอนที่ 4 เลือกช่องทำเครื่องหมายที่เหลือครึ่งหนึ่งของที่ไม่มีเครื่องหมายอยู่ใน รายการ Startup Item ทำซ้ำขั้นตอนเหล่านี้จนกระทั่งเลือกช่องทำเครื่องหมายได้ทั้งหมด

หากเลือกรายการที่เริ่มการทำงานไว้เพียงรายการเดียวจาก Startup Item และยังพบปัญหา แสดงว่ารายการเริ่มการทำงานดังกล่าวเป็นสาเหตุของปัญหา ไปขั้นตอนที่ 6

หาก ไม่มีรายการเริ่มการทำงานใดที่เป็นสาเหตุของปัญหานี้ แสดงว่าส่วนให้บริการของ Microsoft อาจไม่ได้เป็นสาเหตุของปัญหา พิจารณาว่าส่วนให้บริการ Microsoft ตัวใดที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา โดยทวนซ้ำขั้นตอนที่ 1 และ 2 โดยไม่ทำเครื่องหมายที่ Hide all Microsoft services ในทั้งสองขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 6: แก้ไขปัญหา

หลัง จากพบรายการเริ่มการทำงานหรือส่วนบริการที่เป็นสาเหตุของปัญหาแล้ว กรุณาติดต่อผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อตรวจสอบว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร หรือเรียกใช้ยูทิลิตี้ System Configuration จากนั้นคลิกเพื่อลบเครื่องหมายสำหรับรายการที่เป็นสาเหตุของปัญหา

ขั้นตอนที่ 7: รีเซ็ตคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มการทำงานตามปกติ

หลังจากแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อรีเซ็ตคอมพิวเตอร์ให้สตาร์ทตามปกติ:
  1. คลิก Start
     จากปุ่ม Start
    พิมพ์ msconfig.exe ในช่อง Start Search จากนั้นกด ENTER

    User Access Control permission
    หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue
  2. จากแท็บ General คลิกเลือก Normal Startup จากนั้นคลิก OK
  3. เมื่อได้รับแจ้งให้รีสตาร์ทเครื่อง ให้คลิกที่ Restart

การเริ่มใช้บริการ Windows Installer เมื่อไม่ได้โหลดส่วนให้บริการของระบบ

หากคุณเรียกใช้โปรแกรม Setup โดยไม่ได้เรียกใช้ส่วนบริการ Windows Installer คุณอาจได้รับข้อความแจ้งข้อผิดพลาดต่อไปนี้
The Windows Installer service could not be accessed. ติดต่อฝ่ายให้บริการเพื่อยืนยันว่ามีการลงทะเบียนส่วนให้บริการ Windows Installer ถูกต้อง
ส่วนให้บริการ Windows Installer จะไม่เริ่มขึ้นหากคุณไม่ได้ทำเครื่องหมายที่ Load system services จากยูทิลิตี้ System Configuration ใช้งานส่วนให้บริการ Windows Installer เมื่อไม่ได้โหลดส่วนให้บริการระบบโดยเรียกใช้ส่วนให้บริการด้วยตัวเอง โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
  1. คลิก Start
     จากปุ่ม Start
    คลิกขวาที่ Computer จากนั้นคลิกเลือก Manage

    User Access Control permission
    หากคุณได้รับแจ้งขอรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือขอการยืนยันรหัส ให้พิมพ์รหัสผ่านของคุณ หรือคลิก Continue
  2. จากโครงสร้างคอนโซล คลิกเลือก Services and Applications จากนั้นคลิกที่ Services
  3. จากแถบแสดงรายละเอียด คลิกขวาที่ Windows Installer จากนั้นคลิกที่ Start

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น